การเขียนความสำคัญและความเป็นมาของการวิจัย เป็นการเขียนเพื่อตอบคำถามว่าเหตุใดจึงต้องวิจัยเรื่องนี้ ข้อค้นพบจากการวิจัยจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร มีความคุ้มค่าหรือไม่ในการวิจัยเรื่องดังกล่าว นิยมเขียนเน้นความเรียงที่เน้นความเป็นเหตุเป็นผล มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของเนื้อหาสาระ โดยให้มีความกระชับเข้าใจง่าย การเขียนนำเข้าสู่ปัญหาวิจัยควรเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวปัญหา โดยเขียนให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า ณ เวลาปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยในอดีตที่สามารถตอบปัญหาดังกล่าวได้ และปัญหาดังกล่าวสมควรได้รับการแก้ไขด้วยการหาคำตอบโดยกระบวนการวิจัย ข้อคำตอบที่ค้นพบควรมีลักษณะของการเสริมสร้างความรู้เพิ่มเติมจากข้อค้นพบจากงานวิจัยในอดีต เป็นองค์ความรู้ใหม่ ประเด็นของปัญหาวิจัยไม่มีข้อความเกี่ยวข้องกับคุณค่าหรือความคิดเห็น ต้องมีการแสดงแหล่งหรือที่มาของข้อมูลที่นำมาอ้างอิงหรือสนับสนุนเหตุผลความจำเป็นในการโน้มน้าวให้ผู้อ่านเห็นคล้อยตามว่าสมควรทำวิจัยเรื่องดังกล่าวด้วย และแหล่งข้อมูลดังกล่าวต้องตรวจสอบได้
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:T0PwjczePZMJ:blog.eduzones.com/jipatar/85921+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th ได้กล่าวและรวบรวมไว้ว่า อาจเรียกต่างๆกัน เช่น หลักการและเหตุผล ภูมิหลังของปัญหา ความจำเป็นที่จะทำการวิจัย หรือ ความสำคัญของโครงการวิจัย ฯลฯ ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร ต้องระบุว่าปัญหาการวิจัยคืออะไร มีความเป็นมาหรือภูมิหลังอย่างไร มีความสำคัญ รวมทั้งความจำเป็น คุณค่าและประโยชน์ ที่จะได้จากผลการวิจัยในเรื่องนี้ โดยผู้วิจัยควรเริ่มจากการเขียนปูพื้นโดยมองปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาอย่างกว้างๆ ก่อนว่าสภาพทั่วๆไปของปัญหาเป็นอย่างไร และภายในสภาพที่กล่าวถึง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยหยิบยกมาศึกษาคืออะไร ระบุว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาแล้วหรือยัง ที่ใดบ้าง และการศึกษาที่เสนอนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่า ต่องานด้านนี้ ได้อย่างไร
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:Jo6lOwP7aTIJ:www.gotoknow.org/blogs/posts/491771+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th ได้กล่าวและรวบรวมไว้ว่า
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:T0PwjczePZMJ:blog.eduzones.com/jipatar/85921+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th ได้กล่าวและรวบรวมไว้ว่า อาจเรียกต่างๆกัน เช่น หลักการและเหตุผล ภูมิหลังของปัญหา ความจำเป็นที่จะทำการวิจัย หรือ ความสำคัญของโครงการวิจัย ฯลฯ ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร ต้องระบุว่าปัญหาการวิจัยคืออะไร มีความเป็นมาหรือภูมิหลังอย่างไร มีความสำคัญ รวมทั้งความจำเป็น คุณค่าและประโยชน์ ที่จะได้จากผลการวิจัยในเรื่องนี้ โดยผู้วิจัยควรเริ่มจากการเขียนปูพื้นโดยมองปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาอย่างกว้างๆ ก่อนว่าสภาพทั่วๆไปของปัญหาเป็นอย่างไร และภายในสภาพที่กล่าวถึง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยหยิบยกมาศึกษาคืออะไร ระบุว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาแล้วหรือยัง ที่ใดบ้าง และการศึกษาที่เสนอนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่า ต่องานด้านนี้ ได้อย่างไร
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:Jo6lOwP7aTIJ:www.gotoknow.org/blogs/posts/491771+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th ได้กล่าวและรวบรวมไว้ว่า
หนึ่งในความสำคัญของมนุษย์ชาติคือการวิจัย เพราะเป็นรากเหง้าของความคิดจินตนาการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่นำพาวิถีชีวิตก้าวไปสู่ความเจริญทางวิทยาการต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคม
การวิจัยยังนำวิถีมนุษย์ให้รู้จักค้นหาในสิ่งที่ต้องการรู้ด้วยความสงสัยในสิ่งแปลกใหม่ จึงก่อเกิดผลที่ตามมาดังที่เราเห็นได้ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ ยารักษาโรค ปุ๋ยเคมีชีวภาพและเรื่องอื่น ๆ มีมายมากที่ได้มาจากการวิจัย
ดังตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดเจนเช่น เมื่อสองพี่น้องกระกูลไรค์ ( Wright ) ชาวอเมริกัน ที่มีความอยากรู้อยากเห็นและสงสัยว่านกมันบินได้ยังไง จนกลายมาเป็นเครื่องร่อนบินเหมือนนกได้ ทำให้เราสะดวกในการเดินทางแทนที่จะอาศัยขี่หลังม้าหลังช้างเดินทางไกลเหมือนอย่างในอดีต
การวิจัยนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้า ยิ่งมีการวิจัยค้นคว้ามาก ความเจริญก้าวหน้ายิ่งมากขึ้น สำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์อาจก่อให้เกิดแก่บุคคลอย่างน้อย 3 ประการด้วยกัน คือ
1 . เป็นประโยชน์แก้นักสังคมศาสตร์ ทำให้มีความรู้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นของปัจเจกบุคคลหรือกลุ่ม นอกจากนั้น ยังทราบถึงเทคนิคและทฤษฎีใหม่ที่ได้จากการศึกษาด้วย
2 . เป็นประโยชน์แก่ผู้นำชุมชน และผู้ปฏิบัติงานในวิชาชีพต่าง ๆ เช่น นักบริหาร ครูอาจารย์ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน และผู้บริหารงานในภาครัฐ บุคคลเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยในการปรับปรุงนโยบาย การวางแผน และการปฏิบัติงานของตน
3 . เป็นประโยชน์แก่บุคคลทั่วไป ก่อให้เกิดความเข้าใจในพลวัต ( Dynamic ) และศักยภาพ ( Potential ) ของกิจกรรมบางอย่างของมนุษย์ และใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานส่วนตัว และส่วนรวม. วัลลภ ลำพาย . ( 2547 : 4 ) .
ในยุคปัจจุบันนี้เป็นที่แน่ชัดว่าผู้นำทุกประเทศและนักวิชาการรวมถึงผู้สนใจใฝ่รู้ต่างให้ความสำคัญของการวิจัยทั้งนั้น รวมถึงการทุ่มเทงบประมาณลงสู่การวิจัยเพื่อสร้างสติปัญญาของคนในประเทศตนเอง มีการผลิตแม้แต่อาวุธร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธ ระเบิดนิวเคลีย์ หรือส่งคนไปนอกโลกเดินทางในอวกาศ บางประเทศผลิตผลเฉพาะโดดเด่นเช่นด้านน้ำหอมต้องยกให้ฝรั่งเศส เครื่องจักรกลต้องยกให้เยอรมันนี
การผลิตสินค้าได้คุณภาพอย่างนี้ ได้สร้างผลกำไรมหาศาลกลับมาสู้ประเทศเป็นเพราะมาจากผลงานการวิจัยทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( 2550 : 14 ) ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ถูกกำหนดโดยองค์การสหประชาชาติให้เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ( developing country ) อันเนื่องมาจากเมื่อเทียบประเทศไทยกับประเทศที่เจริญรุ่งเรืองในด้านเทคโนโลยีและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมแล้ว นับได้ว่าประเทศไทยยังอ่อนด้อยอยู่มาก
ดังตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดเจนเช่น เมื่อสองพี่น้องกระกูลไรค์ ( Wright ) ชาวอเมริกัน ที่มีความอยากรู้อยากเห็นและสงสัยว่านกมันบินได้ยังไง จนกลายมาเป็นเครื่องร่อนบินเหมือนนกได้ ทำให้เราสะดวกในการเดินทางแทนที่จะอาศัยขี่หลังม้าหลังช้างเดินทางไกลเหมือนอย่างในอดีต
การวิจัยนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้า ยิ่งมีการวิจัยค้นคว้ามาก ความเจริญก้าวหน้ายิ่งมากขึ้น สำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์อาจก่อให้เกิดแก่บุคคลอย่างน้อย 3 ประการด้วยกัน คือ
1 . เป็นประโยชน์แก้นักสังคมศาสตร์ ทำให้มีความรู้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นของปัจเจกบุคคลหรือกลุ่ม นอกจากนั้น ยังทราบถึงเทคนิคและทฤษฎีใหม่ที่ได้จากการศึกษาด้วย
2 . เป็นประโยชน์แก่ผู้นำชุมชน และผู้ปฏิบัติงานในวิชาชีพต่าง ๆ เช่น นักบริหาร ครูอาจารย์ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน และผู้บริหารงานในภาครัฐ บุคคลเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยในการปรับปรุงนโยบาย การวางแผน และการปฏิบัติงานของตน
3 . เป็นประโยชน์แก่บุคคลทั่วไป ก่อให้เกิดความเข้าใจในพลวัต ( Dynamic ) และศักยภาพ ( Potential ) ของกิจกรรมบางอย่างของมนุษย์ และใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานส่วนตัว และส่วนรวม. วัลลภ ลำพาย . ( 2547 : 4 ) .
ในยุคปัจจุบันนี้เป็นที่แน่ชัดว่าผู้นำทุกประเทศและนักวิชาการรวมถึงผู้สนใจใฝ่รู้ต่างให้ความสำคัญของการวิจัยทั้งนั้น รวมถึงการทุ่มเทงบประมาณลงสู่การวิจัยเพื่อสร้างสติปัญญาของคนในประเทศตนเอง มีการผลิตแม้แต่อาวุธร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธ ระเบิดนิวเคลีย์ หรือส่งคนไปนอกโลกเดินทางในอวกาศ บางประเทศผลิตผลเฉพาะโดดเด่นเช่นด้านน้ำหอมต้องยกให้ฝรั่งเศส เครื่องจักรกลต้องยกให้เยอรมันนี
การผลิตสินค้าได้คุณภาพอย่างนี้ ได้สร้างผลกำไรมหาศาลกลับมาสู้ประเทศเป็นเพราะมาจากผลงานการวิจัยทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( 2550 : 14 ) ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ถูกกำหนดโดยองค์การสหประชาชาติให้เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ( developing country ) อันเนื่องมาจากเมื่อเทียบประเทศไทยกับประเทศที่เจริญรุ่งเรืองในด้านเทคโนโลยีและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมแล้ว นับได้ว่าประเทศไทยยังอ่อนด้อยอยู่มาก
สรุป
หนึ่งในความสำคัญของมนุษย์ชาติคือการวิจัย เพราะเป็นรากเหง้าของความคิดจินตนาการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่นำพาวิถีชีวิตก้าวไปสู่ความเจริญทางวิทยาการต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคม การวิจัยเกิดมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งที่เป็นวัตถุธรรมและนามธรรมชวนให้ผู้สนใจใฝ่รู้ค้นคว้าที่มาที่ไปของสิ่งนั้น ๆ เช่น ทำไมอินเดียจึงมีที่สุดของที่สุดอยู่ในประเทศนั้น คือมีความหนาวที่สุดจนภูเขาเป็นน้ำแข็งอย่างหิมาลัย ขณะเดียวกันอินเดียมีความร้อนสุด ๆ จนมีทะเลทรายที่โยนไข่ลงไปแล้วสุกได้ เป็นต้น
หนึ่งในความสำคัญของมนุษย์ชาติคือการวิจัย เพราะเป็นรากเหง้าของความคิดจินตนาการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่นำพาวิถีชีวิตก้าวไปสู่ความเจริญทางวิทยาการต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคม การวิจัยเกิดมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งที่เป็นวัตถุธรรมและนามธรรมชวนให้ผู้สนใจใฝ่รู้ค้นคว้าที่มาที่ไปของสิ่งนั้น ๆ เช่น ทำไมอินเดียจึงมีที่สุดของที่สุดอยู่ในประเทศนั้น คือมีความหนาวที่สุดจนภูเขาเป็นน้ำแข็งอย่างหิมาลัย ขณะเดียวกันอินเดียมีความร้อนสุด ๆ จนมีทะเลทรายที่โยนไข่ลงไปแล้วสุกได้ เป็นต้น
เป็นการเขียนเพื่อตอบคำถามว่าเหตุใดจึงต้องวิจัยเรื่องนี้ ข้อค้นพบจากการวิจัยจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร มีความคุ้มค่าหรือไม่ในการวิจัยเรื่องดังกล่าว นิยมเขียนเน้นความเรียงที่เน้นความเป็นเหตุเป็นผล มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของเนื้อหาสาระ โดยให้มีความกระชับเข้าใจง่าย การเขียนนำเข้าสู่ปัญหาวิจัยควรเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวปัญหา โดยเขียนให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า ณ เวลาปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยในอดีตที่สามารถตอบปัญหาดังกล่าวได้ และปัญหาดังกล่าวสมควรได้รับการแก้ไขด้วยการหาคำตอบโดยกระบวนการวิจัย
การวิจัยเกิดมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งที่เป็นวัตถุธรรมและนามธรรมชวนให้ผู้สนใจใฝ่รู้ค้นคว้าที่มาที่ไปของสิ่งนั้น ๆ เช่น ทำไมอินเดียจึงมีที่สุดของที่สุดอยู่ในประเทศนั้น คือมีความหนาวที่สุดจนภูเขาเป็นน้ำแข็งอย่างหิมาลัย ขณะเดียวกันอินเดียมีความร้อนสุด ๆ จนมีทะเลทรายที่โยนไข่ลงไปแล้วสุกได้ เป็นต้น
อ้างอิง
เว็บไซต์: http://www.gotoknow.org/blogs/posts/261202.[ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555.
เว็บไซต์: http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:T0PwjczePZMJ:blog.eduzones.com/jipatar/85921+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th. [ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555.
[ออนไลน์].เว็บไซต์ http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:Jo6lOwP7aTIJ:www.gotoknow.org/blogs/posts/491771+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th .เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555.
เว็บไซต์: http://www.gotoknow.org/blogs/posts/261202.[ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555.
เว็บไซต์: http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:T0PwjczePZMJ:blog.eduzones.com/jipatar/85921+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th. [ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555.
[ออนไลน์].เว็บไซต์ http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:Jo6lOwP7aTIJ:www.gotoknow.org/blogs/posts/491771+&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th .เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น