การวิจัยใดก็ตาม ที่ผู้วิจัยมีการ กำหนดปัจจัยเสี่ยง หรือกำหนดสิ่งแทรกแซง ให้กับตัวอย่างที่นำมาศึกษา แล้วติดตามดูผล ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การวิจัยชนิดนี้ เรียกว่า การวิจัยเชิงทดลอง(ดูภาพที่ 6)
ภาพที่ 6 จำแนกรูปแบบของการวิจัยตามวิธีดำเนินการวิจัย
http://btananuwat.tripod.com ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า รูปแบบของการวิจัยสามารถแยกออกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ ได้ 2 รูปแบบคือรูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ และรูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งรูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ สามารถจําแนกการวิจัยออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท คือการวิจัยเชิงพรรณนา และการวิจัยเชิงทดลอง
1.การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research) จะมีรูปแบบของการวิจัยที่ไม่มีแบบแผนตายตัวทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการวิจัยนั้นๆ โดยการวิจัยประเภทนี้จะเป็นการค้นคว้าหาความจริงของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขจัดความไม่รู้ให้หมดไป ในการตอบปัญหานั้นการวิจัยประเภทนี้จะไมตอบปัญหาว่าทำไม แต่จะตอบปัญหาว่าอย่างไร โดยไม่มีการควบคุมตัวแปรหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องแต่อย่างไร
2.การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างตัวแปรลักษณะของการวิจัยเชิงทดลอง จะมีองค์ประกอบไปด้วย 3 ประการคือ มีการจัดกระทํา (Manipulation) มีการควบคุม (Control) มีการสังเกตและวัดผลที่เกิดขึ้น(Observation)
ศ.บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์(2533:16) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัย(Research Design)เป็นการสำรวจให้ทราบว่าประเด็นปัญหาในทำนองที่สนใจนั้น มีใครทำวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษามีอะไรบ้าง มีการควบคุมตัวแปรภายนอกอย่างไร มีอะไรบ้างเป็นประชากร สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการอย่างไร เก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ใช้สถิติอะไรบ้าง
สรุป
1.การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research) จะมีรูปแบบของการวิจัยที่ไม่มีแบบแผนตายตัวทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการวิจัยนั้นๆ โดยการวิจัยประเภทนี้จะเป็นการค้นคว้าหาความจริงของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขจัดความไม่รู้ให้หมดไป ในการตอบปัญหานั้นการวิจัยประเภทนี้จะไมตอบปัญหาว่าทำไม แต่จะตอบปัญหาว่าอย่างไร โดยไม่มีการควบคุมตัวแปรหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องแต่อย่างไร
2.การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างตัวแปรลักษณะของการวิจัยเชิงทดลอง จะมีองค์ประกอบไปด้วย 3 ประการคือ มีการจัดกระทํา (Manipulation) มีการควบคุม (Control) มีการสังเกตและวัดผลที่เกิดขึ้น(Observation)
ศ.บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์(2533:16) ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัย(Research Design)เป็นการสำรวจให้ทราบว่าประเด็นปัญหาในทำนองที่สนใจนั้น มีใครทำวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษามีอะไรบ้าง มีการควบคุมตัวแปรภายนอกอย่างไร มีอะไรบ้างเป็นประชากร สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการอย่างไร เก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ใช้สถิติอะไรบ้าง
สรุป
รูปแบบการวิจัย(Research Design)เป็นการสำรวจให้ทราบว่าประเด็นปัญหาในทำนองที่สนใจนั้น มีใครทำวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษามีอะไรบ้าง มีการควบคุมตัวแปรภายนอกอย่างไร มีอะไรบ้างเป็นประชากร สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการอย่างไร เก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ใช้สถิติอะไรบ้าง ซึ่งรูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ สามารถจําแนกการวิจัยออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท คือการวิจัยเชิงพรรณนา และการวิจัยเชิงทดลอง
1.การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research) จะมีรูปแบบของการวิจัยที่ไม่มีแบบแผนตายตัวทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการวิจัยนั้นๆ โดยการวิจัยประเภทนี้จะเป็นการค้นคว้าหาความจริงของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขจัดความไม่รู้ให้หมดไป ในการตอบปัญหานั้นการวิจัยประเภทนี้จะไมตอบปัญหาว่าทำไม แต่จะตอบปัญหาว่าอย่างไร โดยไม่มีการควบคุมตัวแปรหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องแต่อย่างไร
1.การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research) จะมีรูปแบบของการวิจัยที่ไม่มีแบบแผนตายตัวทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการวิจัยนั้นๆ โดยการวิจัยประเภทนี้จะเป็นการค้นคว้าหาความจริงของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขจัดความไม่รู้ให้หมดไป ในการตอบปัญหานั้นการวิจัยประเภทนี้จะไมตอบปัญหาว่าทำไม แต่จะตอบปัญหาว่าอย่างไร โดยไม่มีการควบคุมตัวแปรหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องแต่อย่างไร
2.การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างตัวแปรลักษณะของการวิจัยเชิงทดลอง จะมีองค์ประกอบไปด้วย 3 ประการคือ มีการจัดกระทํา (Manipulation) มีการควบคุม (Control) มีการสังเกตและวัดผลที่เกิดขึ้น(Observation)
อ้างอิง
เว็บไซต์:http://cai.md.chula.ac.th/lesson/research/re12.htm.[ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2555.
เว็บไซต์:http://btananuwat.tripod.com.[ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2555.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์.2533.การวิจัย การวัดและประเมินผล.กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ศรีอนันต์.
เว็บไซต์:http://cai.md.chula.ac.th/lesson/research/re12.htm.[ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2555.
เว็บไซต์:http://btananuwat.tripod.com.[ออนไลน์].เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2555.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์.2533.การวิจัย การวัดและประเมินผล.กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ศรีอนันต์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น